-
- กกก
- ระบบสมาชิก
ไวรัสตับอักเสบ บี (Hepatitis B)
โรคไวรัสตับอักเสบบี เป็นโรคที่มีอาการอักเสบที่ตับ สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบบีบุกรุกเข้าสู่เซลล์ตับ ส่งผลให้เกิดอาการอักเสบขึ้น ในบางรายเชื้ออาจจะฝังตัวอยู่ในร่างกายเป็นปีๆ โดยที่ผู้ติดเชื้อไม่ทราบเลยว่าตัวเองกําลังติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอยู่ (เป็นพาหะ) เชื้อตัวนี้ยังสามารถแบ่งตัวได้อย่างรวดเร็วในเซลล์ของตับ ส่งผลให้ตับอักเสบและถูกทําลาย
ระยะฟักตัวของไวรัสตับอักเสบบี
ระยะฟักตัวของโรคประมาณ 6-8 สัปดาห์
การติดต่อของไวรัสตับอักเสบบี
มีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้ออยู่ในร่างกาย โดยไม่สวมถุงยาง แต่การจูบกันถ้าไม่มีแผลในปากก็จะไม่เกิดการติดต่อ
ใช้เข็มฉีดยา หรือใช้เข็มสําหรับสักตามตัว และการเจาะหูร่วมกับคนที่ติดเชื้อ
ใช้แปรงสีฟัน ใบมีดโกน กรรไกรตัดเล็บร่วมกับผู้ติดเชื้อ
แม่ที่มีเชื้อสามารถติดต่อไปสู่ลูกได้ขณะคลอด และขณะให้นมลูก
สัมผัสเชื้อจากสภาพแวดล้อม หรือสิ่งคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ เพราะเชื้อสามารถอยู่ในสภาพแวดล้อมต่างๆ นานเท่าไหร่ก็ได้ และนำเชื้อเข้าสู่ร่างกายด้วยวิธีต่างๆโดยอาจไม่รู้ตัว
อาการเมื่อได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
อ่อนเพลีย
คลื่นไส้ อาเจียน น้ำหนักลด
จุกแน่นใต้ชายโครงขวา
ตาเหลือง
ปัสสาวะสีเข้า
การวินิจฉัยไวรัสตับอักเสบบี
การวินิจฉัยหลักๆแพทย์จะทำการซักประวัติตรวจร่างกาย และตรวจเลือดเพื่อหาเปลือกของไวรัสตับอักเสบบี (HbsAg) และตรวจเอนไซม์ตับ (AST/ALT) ก่อนการรักษาแพทย์อาจมีการเจาะชิ้นเนื้อตับส่งตรวจเพื่อให้ได้ข้อมูลการอักเสบของตับ แต่อาจจะไม่ได้ทำในผู้ป่วยทุกราย
การรักษาไวรัสตับอักเสบบี
การรักษาไวรัสตับอักเสบบีในผู้ป่วยแต่ละรายขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสมและอธิบายให้ผู้ป่วยทราบเป็นรายกรณีต่อไป
ตับวายเฉียบพลัน
ภาวะที่เกี่ยวกับเลือด เช่น ภาวะโลหิตจาง และการติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นต้น
การป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
หลีกเลี่ยงปัจจัยความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีต่างๆตามที่ได้กล่าวมาในข้างต้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี 039-319888